พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [3. สุญญตวรรค] 1. จูฬสุญญตสูตร
ภิกษุนั้นรู้ชัดอย่างนี้ว่า ในความสำคัญว่าวิญญาณัญจายตนะนี้ ไม่มีความ
กระวนกระวายเพราะอาศัยความสำคัญว่าแผ่นดิน ไม่มีความกระวนกระวายเพราะ
อาศัยความสำคัญว่าอากาสานัญจายตนะ มีอยู่เพียงความกระวนกระวายเพราะ
อาศัยความสำคัญว่าวิญญาณัญจายตนะอย่างเดียว
รู้ชัดว่า ความสำคัญนี้ว่างจากความสำคัญว่าแผ่นดิน
รู้ชัดว่า ความสำคัญนี้ว่างจากความสำคัญว่าอากาสานัญจายตนะ
รู้ชัดว่า ไม่ว่างอยู่อย่างเดียว คือ ความสำคัญว่าวิญญาณัญจายตนะเท่านั้น
ด้วยอาการอย่างนี้ เธอจึงพิจารณาเห็นความว่างนั้นด้วยสิ่งที่ไม่มีอยู่ในความสำคัญ
นั้น
รู้ชัดสิ่งที่เหลืออยู่ในความสำคัญนั้นว่า สิ่งที่ยังมีอยู่นี้มีอยู่
อานนท์ การก้าวเข้าสู่สุญญตาตามความเป็นจริง ไม่คลาดเคลื่อน บริสุทธิ์
ของภิกษุนั้น เป็นอย่างนี้
[180] อีกประการหนึ่ง ภิกษุไม่ใส่ใจความสำคัญว่าอากาสานัญจายตนะ
ไม่ใส่ใจความสำคัญว่าวิญญาณัญจายตนะ ใส่ใจอยู่อย่างเดียว คือ ความสำคัญว่า
อากิญจัญญายตนะเท่านั้น จิตของเธอจึงแล่นไป เลื่อมใส ตั้งมั่น และน้อมไปใน
ความสำคัญว่าอากิญจัญญายตนะ
ภิกษุนั้นรู้ชัดอย่างนี้ว่า ในความสำคัญว่าอากิญจัญญายตนะนี้ ไม่มีความ
กระวนกระวายเพราะอาศัยความสำคัญว่าอากาสานัญจายตนะ ไม่มีความ
กระวนกระวายเพราะอาศัยความสำคัญว่าวิญญาณัญจายตนะ มีอยู่เพียงความ
กระวนกระวายเพราะอาศัยความสำคัญว่าอากิญจัญญายตนะอย่างเดียว
รู้ชัดว่า ความสำคัญนี้ว่างจากความสำคัญว่าอากาสานัญจายตนะ
รู้ชัดว่า ความสำคัญนี้ว่างจากความสำคัญว่าวิญญาณัญจายตนะ
รู้ชัดว่า ไม่ว่างอยู่อย่างเดียว คือ ความสำคัญว่าอากิญจัญญายตนะเท่านั้น
ด้วยอาการอย่างนี้ เธอจึงพิจารณาเห็นความว่างนั้นด้วยสิ่งที่ไม่มีอยู่ในความสำคัญ
นั้น
รู้ชัดสิ่งที่เหลืออยู่ในความสำคัญนั้นว่า สิ่งที่ยังมีอยู่นี้มีอยู่